วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

Peer to Peer


 P2P คืออะไร ????
รูปแบบการเชื่อมต่อแลนไร้สายแบบ peer to peer เป้นการเชื่อมต่อแบบโครงข่ายโดยตรงโดยเครื่องคอมพิวเตอร๋แต่ละเครื่องนั้นจะมีความเท่าเทียมกัน สามารถทำงานของตนเองมาขอใช้บริการของเครื่องอื่นได้จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้งานเพื่อจุดประสงค์ด้านความรวดเร็วหรือติดตั้งได้โดยง่าย เมื่อไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับ
  peer to peer เป็นระบบเครือข่ายขนาดเล็ก เหมาะกับหน่วยงานที่มีคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 10 เครื่อง


ที่มา : http://th.jobsdb.com/


peer to peer คือ
 - ระบบที่อนุญาติให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนไฟล์ระหว่างกันหรือใช้ทรัพยากรร่วมกันผ่านระบบเครือข่าย
 - ระบบการสื่อสารจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งโดยตรง
 - ฯลฯ
การแลกเปลี่ยนไฟล์ระหว่างกันโดยไม่ได้ร้องขอไฟล์จากแม่ข่ายเรียกว่า " P2P file sharing " โปรแกรมนี้มีมากมายหลายตัวด้วยกัน เช่น Emule, Kazaa ,Edonkey ฯลฯ
หลักการทำงานคร่าว ๆ ของโปรแกรม
 1. เชื่อมต่อเป็นแม่ข่ายเพื่อยืนยันตัวตนแส่งสารบัญไฟล์ที่เราแชร์ไว้ไปด้วย
 2. หากเราต้องการหาไฟล์สักไฟล์หนึ่งเมื่อเราระบุ Keyword** โปรแกรมจะส่งคำร้องไปยังแม่ข่าย จากนั้นแม่ข่ายจะส่งรายชื่อไฟล์พร้อมข้อมูลตัวตนของคนที่มีไฟล์ที่ตรงกับ Keyword** ที่เราระบุกลับมา
 3. เมื่อเราพบไฟล์ที่ต้องการแล้วตัวโปรแกรมจะใช้ข้อมูลที่ได้จากแม่ข่ายติดต่อไปยังคนนั้นๆ โดยตรงเมื่อร้องขอไฟล์


ที่มา : http://bbs.exp.in/thread-154-1-1.htm.


Bit Torrent  คือวิธีการแบ่งไฟล์กันและกัน ส่งให้เพื่อน รับจากเพื่อนในลักษณะของ P2P ( peer to peer ) คือไม่จำเป็นต้องมีไฟล์นอนอยุ่ที่ server เหมือนเมื่อก่อนที่ผู้ใช้สามารถแชร์กันได้โดยตรง
 * Seeder  คือผู้ที่แจกไฟล์เป็นคนแรกเพื่อส่งต่อให้คนอื่นๆ โดยทำเป็น torrent
 * Leecher คือ ผู้ดูด ถ้าดูดครบ 100 % แล้วยังไม่ปิดก็จะเลือกฐานะกลายเป็น Seeder คนต่อไป ทันที
 * Torrent คือ ไฟล์ตัวเล็กๆ ที่บรรจุข้อมูล hash ของไฟล์ที่จะแชร์
 * Peer คือ จำนวนผู้ที่มีการติดต่อกันในขณะนั้น
 *Swamp คือ จำนวน peer ทั้งหมดที่ดูด Torrent อยู่ในขณะนั้น
 *tracker คือตัวกลางที่ทำหน้าที่บอกว่าไฟล์อยู่ตรงไหน ดูดไปเท่าไหร่ ส่งออกไปเท่าไหร่  ทำหน้าที่เหมือน โอปะเรเตอร์คอยโทรศัพท์
 *Passkey คือรหัสประจำตัว เวลาไปโหลด Torrent เราจะเห็นตรงแท็กเกอร์ (Tracker) เป็นอักษรยาวๆตัวนี้จะเป็นตัวบอกว่า ดูดเท่าไหร่ ปล่อยเท่าไหร่ เพื่อกำหนด Ratio ของเราป้องกันพวกดูเสร็จแล้วหนี ต้องรักษาไว้ให้ดี
 *Ratio คือ อัตราส่วนการปล่อย และการดูด ดูดมาเท่าไร ต้องปล่อยไปเท่านั้นในกรณีที่มีแต่ค่าอัพโหลด ไม่มีค่าดาวโหลด จะถือว่าค่าดาวโหลดมีค่า เท่ากับ 0 และเป็นผลทำให้ Ratio มีค่าเท่ากับ Inf
ที่มา : http://merfo:biogspot.com/2009/07/p2p.htrp
ประโยชน์ของระบบเครื่อข่าย Peer to Peer
 1.ติดตั้งง่าย ค่าใช้จ่ายน้อย
 2.ไม่จำเป็นต้องมีการดูแล หรือผู้ชำนาญการสูง
 3.สามารถดูข้อมูล แลหเปลี่ยน และแชร์การใช้อินเทอร์เน็ตร่วมกันได้
 4.สามารถแชร์เครื่องพิมพ์ CD-ROM ร่วมกันได้ด้วย
 5. ไม่จำเป็นต้องมี Server (คอมพิวเตอร์แม่)

Peer to Peer แบ่งได้ 3 แบบ คือ
 *Pure Peer to Peer มีลักษณะที่ตรงกันข้ามกับโมเดแบบศูนย์กลางตรงที่ทุกๆ เพียร์ สามารถติดต่อและแลกเปลี่ยนกันได้โดยตรง จุดเด่นของโมเดลนี้มีความสามารถขยายเครื่อข่าย ,ความคงทน, โดยท่ามีเพียร์เสียหรือออกไปจากระบบจะไม่ส่งผลกระทบโดยรวม
 *Hybrid Peer to Peer โมเดลนี้จะมีเครี่องเซริฟเวอร์ที่ทำหน้าที่ควบคุมรายละเอียดของข้อมูลที่อยู่ภายในเครื่อข่าย การส่งข้อมูลเป็นแบบเดียวกับ Pure P2P โมเดลนี้ช่วยลดปัญหาเรื่องการจัดการข้อมูลที่ทำได้ยาก ในโมเดลแบบ Pure P2P
 *Super Peer เป็นโมเดลใหม่ที่เพิงจะเกิดขึ้นเป็นการเอาระบบแบบศูนย์กลาง ไปรวมอยู่ในระบบแบบกระจาย  และจะช่วยลดปริมาณในการจัดการของเซริฟเวอร์ ช่วยเพิ่มความสามารถเรื่องการขยายขนาด

และความคงทนของเครื่อข่าย  Super Peer ทำหน้าที่เหมื่อนเป็นเซริฟเวอร์กลางให้กับกลุ่มของไคลเอนด์